Day Trader: A Unique Blueprint สำหรับเทรดเดอร์อิสระธรรมดา ที่ต้องการทำกำไรแบบไม่ธรรมดา Part 18

18. ไปสู่ความยิ่งใหญ่หรือไม่ก็กลับบ้านไปซะ: Compounding (การทบต้น) สู่เป้าหมายเงินล้าน (ตอนจบ)

ถ้าคุณคือเทรดเดอร์อิสระ มีความเป็นไปได้ว่าคุณคงไม่ได้มีพอร์ตที่ใหญ่มากมายอะไร ส่วนใหญ่แล้วก็อยู่ระหว่าง $25,000 หรือน้อยกว่านั้น ทีนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่เทรดเดอร์อิสระจะสามารถทำเงินล้านได้จากการมีพอร์ตที่เล็ก ๆ แบบนี้?

มันคงไม่เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนหรอกครับ มาถึงตรงนี้คุณก็คงจะทราบดีแล้วว่าบทความนี้ก็ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์นั้น แต่ก็คงต้องขอขอบคุณความดีของ leverage และประสิทธิภาพของการทบต้น ที่จะทำให้เราไปถึงจุดหมายได้เพียงแต่ต้องใช้เวลา

เรามาดูพลังของการทบต้นกันครับ สมมุติว่าคุณคือ E-mini S&P 500 day trader ด้วยพอร์ต $25,000 คุณมีเทรดโดยเฉลี่ยคือ 2 เทรดต่อวัน แล้ว expectacy (ความคาดหวัง) ต่อเทรดของคุณอยู่ที่ 0.25 points หมายความว่าเมื่อนำทุกอย่างมาคำนวณหมดแล้ว (winners - losers - commisstions) แล้วหารด้วยจำนวนครั้งในการเทรดคุณกำไรเฉลี่ยต่อการเทรด 1 ครั้งที่ +0.25 points (ทั้ง ๆ ที่ S&P มี range เฉลี่ยต่อวันอยูที่ 10 - 12 points เนี่ยแหล่ะ) กำไรเฉลี่ย 0.25 points สำหรับเทรดเดอร์ที่ดีแล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปได้แน่นอน

เอาล่ะสมมุติว่าคุณเซ็ทความเสี่ยงของคุณเอาไว้ที่ 2% ต่อการเทรด 1 ครั้งจากเงินทั้งหมดในพอร์ต (จริง ๆ ค่อนข้างสูงไปหน่อยแต่ก็ค่อนข้างปลอดภัยในแง่ position sizing) และ stop loss โดยเฉลี่ยของคุณอยู่ที่ 2 points ด้วยจำนวนการเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ 2 เทรด/วัน และ 0.25 points/เทรด คุณก็จะได้กำไรทั้งหมดต่อวันอยู่ที่ 0.5 points/วัน (นี่คือค่าเฉลี่ยบางวันคุณก็คงจะเสียบ้าง) ทั้งหมดนี้ คุณจะทำกำไรคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อวันเท่าไหร่? โอเค ถ้า 2 points stop-loss มีค่าเท่ากับความเสี่ยง 2% ต่อการเทรดแต่ละครั้ง เพราะฉะนั้นกำไร 0.5 points/วัน ก็จะเท่ากับ 0.5% นี่คือผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อวัน (แนะนำให้ดูวิดีโอ money/risk management จะได้เข้าใจมากขึ้น)

เอาล่ะที่นี้เรามาดูพลังแห่งการทบต้น (compounding) กันครับ สมมุติว่าคุณเทรด 11 เดือนต่อปี (หยุดเที่ยวเล่น 1 เดือน) จำนวนวันเทรดต่อเดือนอยู่ที่ 20 วัน ก็จะเท่ากับ 220 วัน/ปี เราเห็นจากการคำนวณด้านบนแล้วว่าเราได้กำไร 0.5% /วัน เมื่อทบต้น 0.5% เข้ากับ 220 วัน ผลตอบแทนที่คุณได้รับคือ 200% เราไม่ได้เอา 0.5% ไปคูณกับ 220 โดยตรงแต่เราใช้การคำนวณแบบทบต้น (compounding)

คุณจะเห็นเลยว่ามันต่างกันมาก เพราะฉะนั้นถ้าคุณปล่อยให้บัญชีของคุณงอกเงยไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีการถอนกำไรออกมาเลย จากเงินทุน $25,000 จะกลายเป็นเงินโดยประมาณ $75,000 เมื่อจบการเทรด 1 ปี และเมื่อคุณทบต้นนี้แล้วเทรดต่อไปอีก 1 ปี มันก็จะกลายเป็น $250,000 เมื่อทำแบบเดียวกันต่อไปอีกปีก็จะเป็น $650,000 และสุดท้ายเมื่อจบปีที่ 4 บัญชีของคุณก็จะโตขึ้นเป็น $2,025,000 จากเงินเริ่มต้น $25,000 กลายเป็นเงินล้านภายใน 4 ปี

"แต่เดี๋ยวนะ" คุณอาจจะพูดว่า "นี่มันเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริงรึ"? เมื่อผลตอบแทนแบบทบต้นทั้งหมดมันคือ 8,100% เมื่อจบ 4 ปี มันแทบจะดูว่าเป็นไปไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับผู้จัดการการลงทุนที่ยอดเยี่ยมของโลกที่ทำได้แค่เพียง 20% - 30% ต่อปี ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ มาดูอย่างละเอียดกัน




เวลาที่คุณได้ยินว่า the best money manager in the world ทำได้เพียง 30% - 40% ต่อปี คุณต้องเข้าใจก่อนว่านี่มันเป็นคนละเกมส์กันเลยนะครับ เพราะพวกเค้าเหล่านั้นเทรดด้วยเงินเป็นร้อยเป็นพันล้าน นั่นแปลว่าพวกเค้าไม่ใช่ day trader ที่จะได้ประโยชน์จาก large leverage เนื่องจากพอร์ตของพวกเค้านั้นใหญ่มาก การที่จะเข้าตลาดหรือออกจากตลาดนั้นต้องใช้เวลาเป็นวัน ๆ การเทรดของพวกเค้านั้นมีผลอย่างชัดเจนกับการทำให้ตลาดเคลื่อนที่ พวกเค้าจึงมีข้อจำกัดในการทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับตลาด  เมื่อเทียบกับเดย์เทรดเดอร์ที่เทรดด้วยเงิน $25,000 ความเสี่ยง 2%/เทรด ที่ 2 point stop คิดแล้วเป็นเพียง 5 สัญญาเท่านั้น ($25,000 x 2% / 2 point stop x $50 per point) ซึ่ง S&P ที่ 1500 มันมีมูลค่าจริงต่อ 1 point คือ $75,000 (1500 x $50) การเทรด 5 สัญญาหมายความว่า เทรดเดอร์คนนี้กำลังเทรดมูลค่าในความเป็นจริงที่ $350,000 ในขณะที่ตัวเองมีพอร์ตอยู่ที่ $25,000 เท่านั้นซึ่งเท่ากับ leverage 15 ต่อ 1

ใช่ครับคำตอบของคำถามนี้นั้นดูเหมือนว่าเราทำผลงานได้ดีซะยิ่งกว่า money manager ชั้นนำอยู่เยอะมาก เหตุผลก็เพราะว่าเทรดเดอร์อิสระนั้นมีบัญชีที่เล็กพวกเราจึงได้ประโยชน์สูงสุดกับ leverage ในขณะที่สถาบันการเงินใหญ่ที่มีเงินมหาศาลพวกเค้าได้ประโยชน์จาก leverage เพียงเล็กน้อยหรือไม่ได้เลย

ผมอยากจะสรุปบทความนี้ ด้วยชื่อหัวข้อนี้ที่ว่า: ไปสู่ความยิ่งใหญ่หรือไม่ก็กลับบ้านไปซะ: Compounding (การทบต้น) สู่เป้าหมายเงินล้าน ผมไม่อยากจะบอกคุณเลยว่าผมได้เจอเทรดเดอร์ที่มีความสามารถที่จะสร้างเงินล้านได้มากมายแต่พวกเค้านั้นคิดเล็กจนเกินไป เทรดเดอร์ที่ผมรู้จักคนนึงทำกำไรจากตลาดด้วยการเทรด E-mini S&P มา 10 ปี รู้จักตลาดและวิธีเทรดทะลุปรุโปร่ง แต่ทุกวันนี้เค้าก็ยังเทรดแค่ 2 สัญญาอยู่เลย! เค้าไม่ยอมเพิ่มสัญญาแม้ว่าบัญชีของเค้าจะเพิ่มขึ้นมากเพียงใด เค้าอนุรักษ์นิยมและกลัวมากเกินไป ส่วนอีกคนนึงมีเงินและความสามารถที่จะเทรด 200 สัญญาได้ แล้วก็เช่นกันเค้าก็เทรดอยู่เพียงแค่ 20 ถึง 50 สัญญา ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมหงุดหงิดได้เท่ากับเห็นเรื่องพวกนี้อีกแล้ว พวกเค้ามีความสามารถเต็มเปี่ยมที่จะทำเงินจากตลาดได้ล้านแล้วล้านเล่า แต่ก็ยังติดอยู่ใน comfort zone และไม่ผลักดันตัวเองมากพอ พวกเค้าตกอยู่ในวงวนที่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับความกลัวทั้งเรื่องการลงทุนและเรื่องการใช้ชีวิตด้วย น่าเสียดายจริง ๆ และนั่นคือคติประจำตัวของผมเลยคือ: ไปสู่ความยิ่งใหญ่หรือไม่ก็กลับบ้านไปซะ เพราะ ณ ที่นี้ไม่ใช่ที่สำหรับ 2-lots traders ถ้าคุณทุ่มเทอุทิศตนเพื่อพัฒนาความสามารถของคุณได้ คุณก็ต้องพร้อมที่จะลงทุนให้สอดคล้องกับความสามารถของคุณ เมื่อบัญชีของคุณเติบโตจำนวนสัญญาของคุณก็ควรที่จะต้องโตตามไปด้วยตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น

และนี่คือทั้งหมดของวิธีการที่จะนำทางให้คุณกลายเป็นเทรดเดอร์อิสระธรรมดาที่ทำกำไรจากตลาดได้แบบไม่ธรรมดา

คำถาม ช่างซับซ้อน: เทรดได้เงินแล้วมาสอนเทรดทำไม?
คำตอบ ช่าง(Simple): อยากเก่งเรื่องอะไร ให้สอนเรื่องนั้น อยากเทรดให้เก่ง ก็ยิ่งต้องสอนเทรด the more you tech, the better you learn.

Our Recommended Platform