3. ใครคือ Ziad และ ทำไมคุณต้องฟังผม?
ถ้าคุณยังไม่ได้ถามตัวเองว่าทำไมคุณถึงต้องฟังผม คุณควรถามตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ โชคร้ายที่แวดวงธุรกิจนี้เต็มไปด้วยกูรูเก๊ ๆ และเซลส์แมนที่ลื่นเป็นปลาไหล
แน่นอนว่ามันมีอยู่ทั่วไปหมดและถ้าคุณใช้เวลาหาข้อมูลสักหน่อย มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะแยกแยะว่าใครคือตัวปลอมและใครคือตัวจริง ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะแชร์เรื่องราวของผมให้คุณฟังแล้ว
ผมเริ่มต้นเป็นเดย์เทรดเดอร์อิสระจริงจังในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2005 ผมไม่ได้เลือกที่จะทำอาชีพนี้แต่มันมาจากเสียงเรียกร้องข้างใน ผมรู้สึกว่าผมเกิดมาเป็นเทรดเดอร์และรู้ด้วยว่าผมสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะเป็น ดังนั้นผมจึงลาออกจากงานที่ทำและ go for it ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี บางคนคงคิดว่านั่นมันเป็นเรื่องโง่มากที่ออกจากงานประจำที่ได้ค่าตอบแทนดี ๆ แล้วมาเลือกเส้นทางที่คนกว่า 90% ล้มเหลว ผมคิดว่าใครที่คิดแบบนั้นคือคนโง่มากกว่า ตามความคิดของผม ความสำเร็จของผมนั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนว่ามันต้องเกิดขึ้น เป้าหมายของผมไม่ใช่เพียงแค่ประสบความสำเร็จ แต่มันคือการเป็น 1 ใน the best day trader in the world.
เส้นทางที่เดินไปนั้นมันยากกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้มากมายนัก ผมใช้เวลากว่า 2 ปีด้วยตัวเองเพื่อเรียนการเทรด 2 ปีโดยที่ไม่มีรายได้เข้ามาเลย พยายามที่จะเป็น professional ผมอ่านหนังสือเป็นโหล ๆ เหมือนกับจะกินมันเข้าไป ผมจดโน้ตเป็นพันหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาด ผมใช้เวลาเป็นร้อย ๆ ชั่วโมงบนหน้าจอคอมฯ พยายามที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเทรด เชี่ยวชาญในการควบคุมตัวเอง และศิลปะในการเทรด
มันจะมีวันนึงเข้ามา วันที่ผมรู้สึกว่ามันไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ผมมีจิตใจที่แน่วแน่และมองเห็นเป้าหมายของผมอย่างชัดเจน ผมต้องการที่จะเป็นเทรดเดอร์ระดับโลกและจะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่วางไว้ ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยและด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีว่ามันเป็นไปได้ แม้จะเป็นคนธรรมดาที่นั่งเทรดจากที่บ้านก็ตาม
จากนั้น ในเดือนธันวาคม 2007 ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ สิ่งที่ผมทุ่มเทลงไปทั้งหมดเพื่อที่จะอ่านตลาดและเทรดได้ดีเริ่มผลิดอกออกผล ในที่สุดผมก็ทำกำไรได้ ในที่สุดผมก็เทรดเป็นงานประจำได้ (trade for a living) 3 ปีหลังจากนั้น ผมก็ทำสถิติทะลุเป้าที่ใครบางคนเคยพูดไว้ และผมก็เริ่มต้นทำการบริหารเงินอย่างมืออาชีพ
เพื่อที่จะทำแบบนั้นผมได้จ้างผู้ตรวจสอบบัญชีเพื่อมาตรวจสอบเรคคอร์ดของผมตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และผมได้ว่าจ้างบริษัทบริหารบัญชีอิสระแห่งหนึ่ง แล้วบริษัทได้ทำรายงานขึ้นมาฉบับหนึ่งซึ่งโชว์ว่า ถ้าใครก็ตามเริ่มลงทุนกับผมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2007 และปล่อยผลกำไรสะสมไปตลอดจนครบ 34 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2010 (เป็นวันที่เริ่มว่าจ้างผู้ตรวบสอบบัญชี) เงินลงทุนจำนวน $100,000 จะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ $1,571,000 ซึ่งเท่ากับความเติบโตโดยรวมคือ 1,471%
ดังนั้นหวังว่าคุณคงจะได้คำตอบแล้ว คำตอบที่แท้จริงคุณไม่ต้องฟังผมก็ได้ แต่คุณควรจะฟังตัวคุณเอง ถ้าสัญชาตญาณของคุณบอกว่าข้อมูลที่ผมพูดนั้นสมเหตุสมผล ฉะนั้นจงรับคำแนะนำจากผมและทำตามเถอะ ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลืมมันไปซะแล้วก็ทำในแบบที่คุณอยากทำ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นมันมาจากคนที่ไปถึงจุดนั้นมาแล้วด้วยตัวเอง
ตัวเลขนี้อาจจะฟังดูบ้าระห่ำสำหรับใครหลายคน แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดของตัวคุณเองที่ฉุดรั้งคุณเอาไว้
ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้? ใครพูดไว้หรือว่าเป็นไปไม่ได้?
มีกฎหมายข้อไหนที่ห้ามคุณไว้หรือเปล่า? มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นแหล่ะที่ฉุดรั้งตัวเราเองไว้ ผมได้รู้จักกับเทรดเดอร์อิสระคนนึงเป็นการส่วนตัวและรู้เห็นกับตาว่าเค้าเคยทำได้มาก่อนแล้ว เค้าไม่ได้อยู่ในองค์กรใด ๆ และไม่ได้บริหารจัดการเงินแบบมืออาชีพด้วย เค้าเทรดด้วยตัวของเค้าเอง เริ่มต้นจากการเป็น floor เทรดเดอร์อิสระแล้วเปลี่ยนตัวเองไปสู่การเทรดออนไลน์เมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว
ถึงตรงนี้คุณคงรู้แล้วว่ามีคนเคยทำได้มาแล้ว ไม่ใช่แค่คนเดียว คุณยังคงคิดว่ามันเป็นไปได้อยู่มั๊ย? คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ จุดประสงค์ของผมก็คือต้องการที่จะขยาย limit ของเป้าหมายของคุณออกไปเพื่อที่คุณจะได้ไปถึงเป้าหมายที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ และตลอดทั้งบทความต่อจากนี้ ผมต้องการที่จะช่วยคุณ ให้ไปถึงจุดหมายนั้นนั่นเอง