Day Trader: A Unique Blueprint สำหรับเทรดเดอร์อิสระธรรมดา ที่ต้องการทำกำไรแบบไม่ธรรมดา Part 4

4. จริง ๆ แล้วการเทรดมันคืออะไรกันแน่ (มันไม่ใช่อย่างที่คุณเคยได้ยินหรอกนะ)

คุณคงได้ยินได้ฟังมามากมายเกี่ยวกับการเทรด แล้วคุณก็คงได้เรียนรู้อะไรมาไม่น้อยตลอดเส้นทาง แต่ลองมาเขย่ามันแรง ๆ ดูซักหน่อยมั๊ยครับแล้วลองมามองในมุมมองที่แตกต่างดูบ้างเป็นไร

หลัก ๆ แล้วสิ่งที่คุณได้รับการสอนหรือบอกกล่าวมาจากสถาบันการสอน หรือหนังสือที่ขายดีนั่นคือ คุณต้องโฟกัสไปที่ความเรียบง่าย นั่นคือคุณต้องหา indicator ที่ไว้ใจได้ และก็หา trade setup เพื่อที่จะเข้าตลาดแบบมีวินัยในทุก ๆ ครั้งที่เห็น setup พวกเค้าเหล่านั้นบอกคุณว่าสิ่งที่คุณต้องการก็มีเท่านั้นแหล่ะบวกเข้ากับจิตวิทยาในการเทรดที่ดี แล้วคุณก็จะทำกำไรได้เอง ดูมันจะเป็นอะไรที่สะดวกดายแล้วก็เป็นหนทางที่ดีในการขายคอร์ส แค่ทำให้มันฟังดู simple และง่ายดาย แล้วเงินทองก็จะไหลมาเทมา

Well, ที่ผมพูดขึ้นมาไม่ได้จะปากเสียกับคนเหล่านั้นแต่อย่างใดนะครับ แต่พูดในฐานะเทรดเดอร์ที่ trade for living ด้วยลำพังตัวคนเดียว ผมมีมุมมองส่วนตัวว่าการเทรดมันคืออะไร แต่ที่จะกล่าวต่อไปคือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอให้ผมได้บอกคุณผ่านคำพูดจากคนที่หลงใหลการเทรดอย่างผมแล้วกัน

การเทรดคืออะไรกันแน่ นี่คงเป็นคำถามของคุณ? การเทรดไม่ใช่สิ่งที่ตรงไปตรงมาง่าย ๆ แบบนั้นแน่ แต่การเทรดคือการยอมรับกับความคลุมเครือ อยู่กับความสับสน นั่งอยู่หน้าจอคอมฯ ด้วยความรู้สึกไม่สบายตัว มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่การทำตามสคริปต์ว่าเมื่อไหร่จะเทรดหรือเมื่อไหร่ไม่สมควรเทรด แล้วยอมรับตามนั้น มันเป็นอะไรที่ปฏิเสธที่จะยอมรับไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่โต้แย้งไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและไม่มีอะไรแน่นอน

ใช่ครับ เทรดเดอร์ที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของคุณต่างก็ต้องการอะไรที่ simple เค้าเหล่านั้นต้องการที่จะกำจัดสิ่งที่กล่าวมาให้เหลือเพียงแค่ simple setup เพื่อที่จะสร้างเป็นระบบที่สะดวกและง่ายต่อการทำซ้ำ ๆ อย่างมีวินัย แต่ตลาดมันไม่ใช่เรื่อง simple แบบนั้นหรอกครับ ตลาดนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เต็มไปด้วยความซับซ้อนคลุมเครือ ระบบการเทรดแบบ simple setup ไม่สามารถรับมือกับตลาดได้ ถึงใช้ได้ก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม คุณต้องเรียนรู้ศาสตร์และศิลปะในการอ่านตลาดให้ออก (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง real-time market) เรียนรู้เพื่อแยกแยะส่วนประกอบออกมาเป็นชิ้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น price action, structure และ theme ของตลาดโดยรวม จากนั้นนำสิ่งเหล่านั้นมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นมุมมองแบบ contextual (ขออภัยที่ไม่สามารถหาคำอธิบายคำว่า contextual เป็นภาษาไทยชัด ๆ ได้ นอกจากจะใช้คำว่า "บริบท") เมื่อคุณเข้าใจเรื่อง contextual แล้วเท่านั้น คุณถึงจะสามารถใช้ simple setup เพื่อเทรดได้ เพราะเมื่อคุณเข้าใจแล้วคุณจะสามารถเลือกประเภทของ setup ที่จะใช้ในสถานการณ์นั้น ๆ ได้ และสิ่งนี้คือ everything

Contextual is everything.

และอย่าเข้าใจผิด เรื่องจิตวิทยานั้นสำคัญมาก ๆ ก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือวิธีเทรดที่รับมือกับตลาดได้ และการที่คุณจะมีวิธีที่รับมือกับตลาดได้คุณต้องอุทิศตัวเองเรียนรู้การอ่านตลาดและ execute ได้อย่างถูกต้องตาม context นั้น ๆ ด้วย

มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะหลาย ๆ คนก่อนหน้าคุณเค้าก็ทำกันมาแล้ว นั่นหมายความว่าคุณเองก็สามารถเรียนรู้ได้เช่นกันถ้าคุณอุทิศตัวเอง คนที่เค้าทำสำเร็จนั้น พวกเค้าไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคุณ สิ่งที่เค้ามีคือคนพวกนี้ไม่ยอมถอย ถ้าไปไม่ถึง

พวกเค้าไม่ได้ใช้เวลาในการเทรดเพื่อรอให้ indicator บอก setup แบบลวก ๆ ไม่ใช่เลย!!! พวกเค้าใช้เวลาตลอดการเทรดเพื่ออ่านตลาด นาทีต่อนาที ชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อหาความเป็นไปได้ที่จะตลาดจะเป็นไปแบบนั้นแบบนี้ ค้นหาและช่างน้ำหนักความสมดุล และคิดหาเทรดไอเดียล่วงหน้าว่าสุดท้ายแล้วตลาดจะคลี่คลายออกมาทางไหน

ที่นี้คุณคงจะถามผมว่า แล้วถ้าเราไม่ได้รอสัญญาณที่ชัดเจนแล้วเรารออะไร ใช่ครับ สิ่งที่เรารอคือสัญญาณที่ชัดเจนแต่การได้มาของสัญญาณที่ชัดเจนมันไม่ใช่เรื่อง simple แบบที่ indicator ให้เราไงครับ สัญญาณที่ได้มานั้นต้องผ่านการวิเคราะห์ด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีความสามารถสูงเทียบเท่ากับสมองมนุษย์เท่านั้น รางวัลที่ตลาดมอบให้มันเป็นเรื่องยากที่จะได้มา มันยากที่จะอ่านความหมายท่ามกลางสิ่งรายล้อมที่คลุมเครือ มันยากเพราะความแน่นอนมันมีน้อยเหลือเกิน มันยากที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามและสัญญาณที่ขัดแย้งในบางเวลา เนี่ยละครับความหมายของการเทรด คุณต้องหลีกเลี่ยงสัญญาณที่ได้รับจากสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เพียงเพราะหวังที่จะหนีจากความคลุมเครือ ความยุ่งยากซับซ้อนของตลาด จงฝึกจิตใจให้ชินที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ นี่แหล่ะคือความหมายของ "การเทรด"

ถ้าสิ่งที่ผมพูดมันแตกต่างจากสิ่งที่คุณเคยได้ยินมา ขอให้จำไว้ว่าเรากำลังมองหาเป้าหมายที่ไม่ธรรมดา ด้วยประการฉะนี้เราจึงใช้วิธีแบบเรียบง่ายไม่ได้




ใจความสำคัญที่คุณได้จากเรื่องนี้คือ การเทรดไม่ใช่แค่การหา simple setup ไม่ใช่แค่เรื่อง candlestick patterns หรือแม้แต่การใช้ indicator หลาย ๆ อย่างร่วมกัน ตลาดซับซ้อนกว่านั้นมาก แต่สิ่งที่คุณต้องการคือ คุณต้องสร้างแผนที่ในการทำงานของตลาด ความคิดของคุณจำเป็นเสมอที่จะต้องคิดถึง contextual และนำเอาสิ่งนี้มาเป็นหลักรวมเข้ากับข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับเพื่อช่วยให้คุณอ่านว่าอะไรคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า สิ่งที่คุณควรรู้คือฝั่งไหนกำลังคอนโทรลตลาด ความเชื่อมั่นของพวกเค้ามีมากน้อยเพียงใด และเมื่อเจอฝ่ายตรงข้ามพวกเค้ามีแนวโน้มที่จะทำอะไร ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต้องคำนึงถึง contextual ตลอดเวลา ซึ่งการพิจารณาทั้งหมดนี้ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ผ่าน simple setup และ technical patterns

ผมไม่ได้หมายความว่าความเรียบง่าย เป็นเรื่องที่แย่ หรือวิธีเทรดของคุณจำเป็นที่จะต้องทำให้ซับซ้อน ในทางตรงกันข้าม หลักการพื้นฐานของพฤติกรรมตลาดและการซื้อขายแลกเปลี่ยน (trading) มันเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่ถ้าคุณอยากจะยืนหยัดอยู่ในวงการนี้แล้วล่ะก็ อย่ามักง่ายในวิธีการเลือกรูปแบบการเทรดมาใช้งาน คุณต้องเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์ และไม่ควรเทรดด้วยรูปแบบตายตัวหรือ setup ใด ๆ โดยไม่ดูบริบทอื่นๆ ประกอบโดยเด็ดขาด

นี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ผิดพลาด พวกเค้าเชื่อว่าหลักการเทรดที่ถูกต้องคือการปฏบัติตาม trade setup ทันทีที่เห็น พวกเค้าเชื่อว่าสิ่งที่เค้าขาดไปคือการปฏิบัติตาม trade setup อย่างมีวินัย ความเป็นจริงก็คือ การเหนี่ยวไก คุณต้องรู้ว่า เมื่อไหร่, อย่างไร และทำไม ทุกอย่างที่คุณตัดสินใจนั้นต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของ Context ทั้งสิ้น

setup หรือ pattern เดียวกันสามารถเป็น bullish ในสถานการณ์หนึ่ง และเป็น bearish ในอีกสถานการณ์หนึ่งก็ได้ บนพื้นฐานของ context คุณต้องเข้าใจจริง ๆ ว่าหลักการทำงานของตลาดคืออะไร สิ่งที่เกิดขึ้นจริงเบื้องหลัง (beneath the surface) และสัญญาณอะไรที่คุณจะต้องมองหา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและสำคัญมากกว่าที่คุณนึกถึงเยอะ แต่ข่าวดีก็คือ คุณสามารถเรียนรู้ได้ สิ่งที่คุณต้องการคือการอุทิศตนเพื่อเรียนรู้ด้วยขบวนการที่ถูกต้อง

ณ ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะเริ่มต้นกันแล้วครับ

อ่านต่อตอนที่ 5 >>

คำถาม ช่างซับซ้อน: เทรดได้เงินแล้วมาสอนเทรดทำไม?
คำตอบ ช่าง(Simple): อยากเก่งเรื่องอะไร ให้สอนเรื่องนั้น อยากเทรดให้เก่ง ก็ยิ่งต้องสอนเทรด the more you tech, the better you learn.

Our Recommended Platform