BEAT THE MARKET with DAYTRADEBOSS

 

คอร์สนี้เหมาะกับใคร?

  • ถ้าคุณต้องการทำกำไรจาก Financial Market ได้อย่างยั่งยืน และต้องการทำเป็นอาชีพแบบเต็มเวลา คอร์สนี้ทำมาเพื่อคุณ!
  • ถ้าคุณต้องการแหล่งรายได้แบบ Passive Income คุณมาถูกที่แล้วครับ!
  • ถ้าคุณกำลังค้นหากลยุทธ์ในการเทรดที่ได้ผลจริงแล้วละก็ นี่เป็นคอร์สที่คุณไม่ควรมองข้าม!
  • ถ้าคุณต้องการศึกษาการเทรดแบบรายวัน Day Trading คอร์สนี้จะเป็นเหมือนตำราเล่มสุดท้าย!
  • คอร์สนี้ทำเพื่อ “ทุกคน” ที่ต้องการมีรายได้แบบยั่งยืน ทำงานที่ไหนก็ได้ มีอิสระในการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ

 

 

สิ่งที่คุณจะได้รับมากกว่าวิธีเทรดอื่น ๆ

เทรดตามพฤติกรรมเทรดเดอร์รายใหญ่
ไม่ใช้ Technical Indicator แต่ใช้เฉพาะ Tools ที่สามารถเปิดเผยความจริงของตลาดได้ และเทรดตามความเป็นจริงที่เห็นเท่านั้น
เป็นวิธีการที่ใช้ได้กับทุกตลาด
เพราะมีวิธีที่จะเปิดเผยความเป็นจริงของตลาดว่าใครพยายามจะทำอะไร ที่ไหน แล้วผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร จึงสามารถใช้ได้กับทุก ๆ ตลาดบนโลกใบนี้
สามารถวางแผนการเทรด (Trade Plan) ได้ล่วงหน้า
เพราะการเทรดเป็นธุรกิจ ไม่ใช่การเสี่ยงดวง ดังนั้นการวางแผนธุรกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 ที่คุณต้องทำเสมอ นั่นแปลว่าถ้าไม่สามารถทำแผนการเทรดหรือแผนการทำธุรกิจได้ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนั้นได้อย่างไร
รู้ได้ล่วงหน้าว่า Good Trade Location อยู่ที่ไหน
การรู้ว่า Good Trade Location อยู่ที่ไหนจะทำให้รู้ล่วงหน้า 2 สิ่งเสมอ 1. จุดวาง Stop Loss ที่มีเหตุผล 2. จุดเข้าเทรดที่เหมาะสม
รู้เป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ตาม Market Structure
เมื่อนำข้อ 3 และ 4 มารวมกัน จะสามารถคำนวณได้ล่วงหน้า ว่าเทรดแต่ละเทรดคุ้มค่าที่จะเทรดตาม Reware to Risk Ratio หรือไม่ ทำให้ง่ายและสะดวกกับเรื่อง Money/Risk Management
สามารถ อ่าน/เห็นสถานการณ์และแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
ถ้าสามารถอ่านและถอดรหัสแผนที่ (Market Sturcture) ได้ ก็จะสามารถอ่านสถานการณ์ตลาดได้ตลอดเวลา จึงมีแนวโน้มที่จะเลือกฝั่งเทรดได้ถูกต้องตามมาด้วย

สมัครเรียน Let's Get Started!

เนื้อหาในการสอน

#1: Market Framework

ถ้าจะเปรียบเทียบส่วนประกอบในการเทรดกับการแต่งตัว /เครื่องประดับจะเทียบได้กับ Indicator /เสื้อผ้าหรือชุดที่จะใส่เทียบได้กับ Trade Setup /โอกาส, สถานที่ และ เวลา จะเทียบได้กับ Market Context/Environment

ดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ Indicator หรือ Trade Setup แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรดคือ สถานการณ์, บริบท (Contextual) เพราะเงื่อนไขในการหยิบ Trade Setup ต่าง ๆ มาใช้ มันขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ (บริบท) เช่นเดียวกันกับการที่เราจะเลือกใส่ชุดไปเที่ยวชายทะเลเพื่อไปสัมภาษณ์งาน นั้นไม่ผิด แต่มันไม่ดีและไม่เหมาะสม

แต่คอร์สสอนเทรดอื่น ๆ, หนังสือที่ขายตามร้าน, ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ล้วนแล้วแต่มีเพียงเรื่องของการใช้ Indicator และ Trade Setup เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใด ๆ เลย ที่คนส่วนใหญ่จะไม่ประสบความเร็จในการเทรด นั่นเพราะเค้าขาดสิ่งที่สำคัญที่สุดไป สิ่งนั้นก็คือ ความสามารถในการมองเห็นสถานกาณ์ของตลาด หรือ ผมเรียกติดปากว่า Market Context/Environment

แล้วการที่เราจะศึกษาเรื่อง Market Context เราก็จะขาด Market Framework ไม่ได้ เพราะหัวข้อนี้คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างในการเทรด ซึ่งสิ่งที่เทรดเดอร์จะได้เรียนรู้ในหัวข้อนี้คือ

  • The Real Nature of Market Behavior: ส่วนประกอบของตลาด, พฤติกรรมของตลาดและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของตลาด
  • The 10 Laws of Market Dynamics: กฏพื้นฐานแห่งการเคลื่อนที่ของราคา
  • Understand and Accept Market Truth: ทำความเข้าใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตลาดที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ทำให้คุณมองตลาดในมุมมองแห่งความเป็นจริง

#2: Market Structure

ตลาดนั้นสร้างแผนที่ไว้ให้เราทุกวัน เพียงแต่เราต้องรู้วิธีในการถอดรหัสแผนที่นั้นออกมาเพื่อเห็นโครงสร้างของตลาดในทุก ๆ Time-frame ซึ่งตลาดนั้นจะ Move ตาม Structure 70% - 80% เสมอ นั่นแปลว่าเราจะรู้ว่าถ้าราคาลงจะลงไปที่ไหน ถ้าเวลาราคาขึ้นจะขึ้นไปที่ไหน และจะรู้ว่าบริเวณใดที่ Buyer/Seller มีโอกาสสูงที่จะเข้ามาเทรด

การมองเห็น Market Structure จึงเป็นความสามารถมองเห็น จุดเข้าซื้อ จุดวาง Stop Loss และ จุดที่จะทำกำไรได้ล่วงหน้าเสมอ จึงเป็นการง่ายกับเรื่อง Money/Risk Management ตามไปด้วย เพราะเราจะคำนวณได้ล่วงหน้าว่าเทรดที่เรากำลังจะเทรดนั้นคุ้มค่าในเรื่อง Reward to Risk Ratio หรือไม่

และ Market Structure ยังบอกแนวโน้มของตลาดให้เราได้ด้วย โดยเราสามารถมองเห็นสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา นั่นก็เป็นเพราะว่าเราเห็นแผนที่ของตลาดได้ตลอดเวลานั่นเอง โดยเนื้อหาในบทนี้คือ

  • การอ่านโครงสร้างตลาดโดยใช้ Key Reference Area
  • การวิเคราะห์ตลาด Multiple Time-frame ในมุมมองแนวดิ่ง (Vertical Dimension)
  • การวิเคราะห์ตลาด Multiple Time-frame ในมุมมองแนวนอน (Market/Volume Profile)
  • นำความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมาประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความสามารถในการอ่านตลาดและตีความแนวโน้ม
  • ศึกษาธรรมชาติของพฤติกรรมตลาดใน 1 วัน (Intraday Time-frame)

#3: Tactics & Strategy, Setups & Execution

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เริ่มต้นศึกษาการเทรดจากกลยุทธ์ทันที โดยไม่มี Market Framework และไม่รู้ว่าที่มาที่ไปในการสร้างกลยุทธ์นั้น ๆ ว่าสร้างขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อเข้าสู่การเทรดจึงไม่รู้ว่าจะนำความรู้ที่เรียนมานั้นมาประยุกต์ใช้อย่างไรให้ถูกต้องในสถานการณ์ Real-time

Daytradeboss นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะเราสอนทุกอย่างมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อมาถึงเรื่องกลยุทธ์ เราจึงสามารถอธิบายที่มาที่ไปของกลยุทธ์ได้ว่า ทำไมเราถึงคิดกลยุทธ์ออกมาเช่นนี้

ซึ่งกลยุทธ์นั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเดียว แต่ยังมีเรื่องที่สำคัญตามมาหลังกลยุทธ์อีกนั่นคือ แทคติกต่าง ๆ ที่ควรใช้ตอน Real-time, การเข้าเทรด (Execution) ด้วย โดยบทนี้คุณจะได้ศึกษาเกี่ยวกับ

  • สิ่งสำคัญในการสร้างและกำหนดกลยุทธ์สำหรับ Daytrading
  • 6 ขั้นตอนการทำ Daily Trade Plan
  • การอ่านตลาดในนาทีที่ตลาดเปิด
  • หลักการสำคัญ 9 ประการสำหรับ Intraday Tactic
  • ความลับในการเข้าเทรดแบบมืออาชีพ
  • Fade Setup การเข้าเทรดสวนเทรนด์ระยะสั้น 3 แบบ
  • เทคนิคในการออกจากตลาดเพื่อทำกำไร 5 แบบ
  • Trend Following Setup การเข้าซื้อตามเทรนด์ 2 แบบ

#4: Advanced Setups & Real-time Market Reading

การวิเคราะห์ตลาดนั้นเราต้องยอมรับความจริงที่ว่า เราวิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่เวลาเทรดจริงเราเทรดไปข้างหน้าเพราะฉะนั้นสิ่งที่วิเคราะห์มาทั้งหมดอาจจะแตกต่างจากความจริงตอน Real-time ก็ได้ เพราะความจริงก็คือ ใน Financial Market นั้นเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น

จึงเป็นการดีกว่ามาก ถ้าเราจะมี Skill ในการอ่านตลาด Real-time เพราะแม้จะมีกลยุทธ์ที่ดีมากเพียงใด ก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับ Skill ในการอ่านตลาด Real-time ได้ เพราะนั่นจะเท่ากับว่า เราจะสามารถมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นในตลาดตอน Real-time ได้และการเทรดตามความจริงที่เกิดขึ้น Real-time คือวิธีที่ดีที่สุดแล้ว สิ่งที่เทรดเดอร์จะได้เรียนรู้ในหัวข้อนี้คือ

  • ศึกษาการอ่าน Real-time Market แบบมืออาชีพด้วย Market Internal (Exclusive สำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดตลาดสหรัฐ)
  • Level สำคัญ ๆ ใน Intraday Time-frame ที่ควรใช้เป็น Reference Point
  • การใช้ Relative Volume เพื่อคาดการณ์ Daily Range
  • การอ่านตลาด Real-time บนพื้นฐานของสถานการณ์รอบด้านโดยรวม
    Money/Risk Management และ Mindset

สมัครเรียน Let's Get Started!

Our Recommended Platform